6 ที่นอน 5 ฟุต รุ่นไหนดี ข้อมูลปี 2024

เมื่อคุณค้นหาสิ่งของบางอย่างที่ร้านค้าออนไลน์ คุณจะพบว่าคุณจะได้เจอสินค้าที่คุณมองหาอย่างง่ายดาย สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไว้ใจได้ ผ่านโมบาย แอปพลิเคชั่น ดีๆที่เราแนะนำ
ราคาพิเศษมาแนะนำลูกค้าที่น่ารัก ราคาที่ไม่แพง เราขอแนะนำ ที่นอน 5 ฟุต  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  จากร้านค้า Online ที่ถู๊กถูกและเยี่ยมที่สุดในไทย สั่ง ที่นอน 5 ฟุต  ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง สินค้าดีๆ ราคาถุก ส่งไว ของพรีเมี่ยม ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อที่นอน 5 ฟุตแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง ที่นอน 5 ฟุต นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในที่นอน 5 ฟุตอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ ที่นอน 5 ฟุตแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้

หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังมองหาที่นอนขนาดกลางสำหรับการนอน 1 - 2 คน หรือที่นอนสำหรับคอนโดมิเนียมและอะพาร์ตเมนต์ “ที่นอน 5 ฟุต” คือขนาดที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้เป็นอย่างดีค่ะ เนื่องจาก ที่นอนขนาด 5 ฟุต (Queen Size) เป็นที่นอนขนาดกลาง ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป เหมาะสำหรับผู้ใช้งานจำนวนไม่เกิน 2 คน ช่วยให้คุณประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องได้ โดยเราสามารถเลือกที่นอน 5 ฟุตที่มีมาตรฐานได้จากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Lotus Dunlopillo หรือ Lunio เป็นต้น


อย่างไรก็ตาม นอกจากจะต้องพิจารณาเรื่องขนาดเมื่อเลือกซื้อที่นอนแล้ว เรื่องคุณภาพก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะที่นอนที่ดีจะช่วยลดสาเหตุของอาการปวดหลังและไหล่ได้ ดังนั้น วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ วิธีการเลือกที่นอน 5 ฟุต เพื่อให้คุณได้ที่นอนคุณภาพคุ้มราคา พร้อมทั้งคัดสรร 10 อันดับ ที่นอน 5 ฟุต ยอดนิยมมาให้เป็นตัวเลือกประกอบการตัดสินใจของคุณด้วย หากพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

ก่อนที่จะไปดูวิธีการเลือกที่นอนนั้น เรามาตรวจสอบกันก่อนดีกว่าว่า ขนาดห้องนอนของคุณเหมาะกับการใช้ที่นอนขนาด 5 ฟุตหรือไม่ โดยทั่วไปแล้ว ขนาดของห้องนอนที่ถือว่าพอดีกับเตียง 5 ฟุต คือ ห้องขนาด 4 x 6 เมตร โดยประมาณ หากห้องนอนของคุณมีขนาดเล็กกว่านี้ ก็อาจจะทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องไม่เพียงพอ และทำความสะอาดตามจุดต่าง ๆ ได้ลำบาก ดังนั้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาดังกล่าว เราขอแนะนำให้คุณลองวัดขนาดห้องนอนของคุณคร่าว ๆ ก่อน เพื่อเป็นการจัดสรรพื้นที่ห้องให้ลงตัวมากยิ่งขึ้นค่ะ

พฤติกรรมการนอนส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก เพราะการนอนหลับเต็มอิ่มจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น พร้อมตื่นมาใช้ชีวิตในวันต่อไปได้อย่างเต็มที่ การเลือกซื้อที่นอนที่ดีจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การใช้ที่นอนดี ๆ ยังช่วยลดอาการปวดหลังที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับใครหลายคนได้ด้วย ดังนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันเลยค่ะว่า การเลือกซื้อที่นอนให้ได้คุณภาพ ควรจะพิจารณาจากอะไรบ้าง

ประเภทของที่นอนจะแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ตามวัสดุหลักที่ใช้ในการผลิต โดยที่นอนแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติ รวมถึงมีข้อดี - ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เราไปตรวจสอบกันเลยค่ะว่า ที่นอนแต่ละประเภทนั้นมีอะไรน่าสนใจบ้าง

ที่นอนที่ทำจากยางพารานั้นมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งเป็น คุณสมบัติพิเศษของยางพารา ทำให้ไม่เกิดการยุบตัว ช่วยให้คุณนอนหลับได้สบายไม่ปวดหลัง รวมไปถึงยังมีความคงทน สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 20 ปี


อย่างไรก็ตาม ที่นอนยางพาราแท้ 100% นั้นมักจะมีกลิ่นของยางในการใช้งานในช่วงแรก ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจหลาย ๆ คน ทั้งยังมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวัสดุประเภทอื่นและยังมีน้ำหนักมาก ดังนั้น ผู้ผลิตที่นอนหลายแบรนด์จึงคิดค้นที่นอนแบบผสมระหว่างยางพาราและวัสดุอื่น เช่น ฟองน้ำ เพื่อให้ที่นอนมีน้ำหนักเบาขึ้น ง่ายต่อการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและการทำความสะอาด รวมไปถึงทำให้ราคาไม่สูงมากเกินไปนั่นเองค่ะ

ที่นอนสปริง เป็นที่นอนที่มีน้ำหนักเบาและรองรับน้ำหนักได้ดี โดยเฉพาะกับคนที่มักจะนอนตะแคงอยู่เสมอ เพราะที่นอนประเภทนี้จะช่วยไม่ให้เกิดการกดทับเวลานอน คุณจึงไม่รู้สึกปวดไหล่เมื่อนอนตะแคงเป็นเวลานาน ๆ โดย ที่นอนสปริงสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ Bonnell Spring, Offset Spring, Pocket Spring ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายกัน คือ มีความยืดหยุ่นสูง รับน้ำหนักและคืนตัวได้ดี แต่มีข้อเสีย คือ อาจจะเกิดเสียงดังเมื่อเราพลิกตัวขณะนอน ส่วนความแตกต่างจะอยู่ที่คุณภาพของสปริงที่แต่ละแบรนด์เลือกใช้ และความหนาแน่นของเตียงจากวัสดุเสริมประเภทต่าง ๆ เช่น โฟม หรือวัสดุจากธรรมชาติอื่น ๆ ค่ะ

ที่นอนฟองน้ำอัด เป็นที่นอนแนะนำสำหรับคนที่ไม่ชอบที่นอนที่นุ่มจนเกินไป เพราะที่นอนประเภทนี้จะ มีความยืดหยุ่นน้อย แต่มีความหนาแน่นมาก ไม่ทำให้เกิดการยุบตัวขณะนอนหลับ ข้อดีของที่นอนประเภทนี้ คือ มีราคาย่อมเยาและมีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด แต่ก็มีข้อเสียคือ มีน้ำหนักมาก ทำให้เคลื่อนย้ายลำบาก และกักเก็บความชื้นได้ดีตามลักษณะของฟองน้ำ จึงต้องระวังไม่ให้สัมผัสความชื้น หรือควรตากแดดเมื่อที่นอนเริ่มมีความชื้น เพราะถ้าดูแลรักษาไม่ดีอาจทำให้เกิดเชื้อราได้ เหมาะกับผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องนอนที่นอนที่ไม่มีการยุบตัวหรือนุ่มจนเกินไปค่ะ

ที่นอนประเภทนี้ เป็นการนำใยมะพร้าวมาอัดเข้าด้วยกันเป็นแผ่นแล้วขึ้นรูป มีความหนาแน่นสูง ยุบตัวช้า ซึ่งในปัจจุบันที่นอนที่ทำจากใยมะพร้าวอย่างเดียวนั้นมีไม่มากนัก เนื่องจากเป็นวัสดุจากธรรมชาติทำให้มีราคาสูงจนเกินไป จึงมักจะมีการผสมฟองน้ำ เพื่อเพิ่มความนุ่มและช่วยให้ราคาลดลง อย่างไรก็ตาม หากที่นอนใยมะพร้าวเสื่อมสภาพแล้ว มักจะมีฝุ่นผงและไรฝุ่นสะสมอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ แถมยังทำความสะอาดได้ยากอีกด้วย ดังนั้น เมื่อคุณสังเกตเห็นว่าที่นอนเริ่มเสื่อมสภาพ เราขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนที่นอนใหม่ทันทีค่ะ

ที่นอนประเภทเมมโมรี่โฟม สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ แบบเมมโมรี่โฟมล้วน และแบบที่มีสปริงเสริม เป็นที่นอนประเภทที่มีความนุ่มมากและรองรับการกดทับได้ดี แต่จะคืนตัวช้า ทำให้เตียงยุบตัวเป็นเวลานาน จึงอาจจะขยับตัวได้ลำบากตอนนอน ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ ดังนั้น คุณจะต้องมั่นใจว่าตัวเองชอบที่นอนแบบนุ่ม ๆ จริง ๆ ส่วนที่นอนแบบแบบเสริมสปริงนั้นจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องความนุ่มจนเกินไป เนื่องจากสปริงจะมีเเรงดันมาเสริม จึงทำให้นอนหลับสบายขึ้นค่ะ

การเลือกที่นอนจากน้ำหนักของผู้ใช้และความหนาแน่น (Density) ของที่นอนนั้นมีความสอดคล้องกัน เราขอแนะนำให้คุณเลือก Base จากน้ำหนักของผู้ใช้งาน หากคุณเป็นคนที่มีน้ำหนักมาก ควรเลือกที่นอนที่มีความหนาแน่นมาก เพราะรองรับน้ำหนักได้ดีกว่า โดยทั่วไปแล้วความหนาแน่นของที่นอนควรเริ่มจาก 70 - 110 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (KG/m3) หรือสำหรับผู้สูงอายุ แนะนำให้เลือกความหนาแน่นประมาณ 100 - 110 KG/m3 เพราะที่นอนที่มีความนุ่มมาก ๆ หรือแข็งมาก ๆ จะส่งผลต่อการนอนและทำให้ปวดหลังได้


อย่างไรก็ตาม ค่าความหนาแน่น (Density) จะไม่ค่อยปรากฏในข้อมูลสินค้าเท่าใดนัก แต่เราสามารถคำนวณเองได้โดย นำความกว้าง x ยาว x ลึก มาคูณกัน โดยต้องแปลงหน่วยให้เป็น เมตร เหมือนกันด้วยนะคะ เมื่อได้ค่าตัวเลขแล้วให้นำตัวเลขนั้น ๆ มาหารน้ำหนักที่นอน ก็จะได้ค่าความหนาแน่นของที่นอนออกมาค่ะ

ปัจจุบันผู้ผลิตที่นอนได้มีการพัฒนาที่นอนที่ช่วยให้เรานอนหลับสบายและลดอาการปวดหลังได้ด้วยการคิดค้นที่นอนแบบกระจายน้ำหนักขึ้นมา ซึ่งทำงานด้วยการกระจายน้ำหนักที่กดทับลงไปบนที่นอน ทำให้ที่นอนสามารถรองรับร่างกายเราได้หลายจุด ลดการเกิดแรงกดทับจุดใดจุดหนึ่งของร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดหลังและส่วนอื่น ๆ เช่น เอวหรือไหล่ หากใครที่มีปัญหาเหล่านี้ เราแนะนำให้เลือกซื้อที่นอนที่มีการกระจายน้ำหนักได้ดี เพื่อช่วยแก้ปัญหาสุขภาพของคุณค่ะ

หลังจากที่เราได้ศึกษาวิธีการเลือกที่นอนกันไปอย่างละเอียดแล้ว ต่อไปก็มาดู 10 อันดับ ที่นอน 5 ฟุต ที่น่าสนใจและได้รับความนิยมกันดีกว่าค่ะ ซึ่งเราได้รวบรวมสินค้ามาหลากหลายประเภท เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกที่นอนที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองมากที่สุด จะมีรุ่นไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ !

ที่นอน Pocket Spring รุ่นนี้มีการเสริมขอบที่มีสปริงบรรจุในถุง ก่อนที่จะถูกนำไปบรรจุไว้ด้านในที่นอน และยังมีการกำหนดตำแหน่งของสปริงเป็นแบบ Mono Zone Pocket Spring คือ ลักษณะการวางแยกกัน เพื่อไม่เกิดเสียงดังจากสปริงเมื่อมีการพลิกตัวขณะหลับ ตัวสปริงมีความแข็งแรง ใช้งานได้อย่างทน อีกทั้งยังมี Comfort Foam ที่ช่วยกระจายน้ำหนัก ทำให้ระบบเลือดหมุนเวียนได้ดี และรองรับสรีระร่างกายได้เป็นอย่างดี ช่วยให้คุณหลับสบายกว่าที่เคยค่ะ

ที่นอนรุ่นนี้มีความโดดเด่นตรงที่มีความหนาแน่นเป็นพิเศษ สามารถรองรับผู้ที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก และยังช่วยปรับสมดุลของน้ำหนักให้พอดีด้วย มาพร้อมกับสปริงที่เพิ่มความยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี เพิ่มความแข็งแรงและช่วยรองรับน้ำหนักด้วยแผ่นคอตตอนใยฝ้ายอัด ECCP และยังมีแผ่นโฟม Stressfree ที่จะช่วยในเรื่องการไหลเวียนโลหิตได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติกระจายน้ำหนัก ยับยั้งไรฝุ่น รวมไปถึงการถนอมผิวของเราเวลานอนด้วยค่ะ ถือเป็นที่นอนเพื่อสุขภาพอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

ที่นอนสปริงแบบ Bornell Spring รุ่นนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักทุกส่วนของร่างกาย ด้วยสปริงแบบ High Carbon Bonnell Spring ที่มีความยืดหยุ่นสูงและแข็งแรงทนทาน ผสมผสานกับวัสดุโฟมเพื่อเพิ่มความหนาแน่น และช่วยลดแรงกระแทก มีความนุ่มระดับปานกลาง เหมาะกับคนที่ชอบที่นอนที่มีความหนาแน่นกำลังพอดี นอกจากนี้ เนื้อผ้าที่ใช้หุ้มยังเป็นผ้าที่ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม มาพร้อมกับ Topper ที่สามารถเปลี่ยนได้ จึงช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นค่ะ

ที่นอนรุ่น Sensory Care จากแบรนด์ในเครือของ Index Living Mall รุ่นนี้ เป็นที่นอนสปริงที่ออกแบบมาให้มีโครงสร้างที่ช่วยให้อากาศไหลเวียนดี จึงไม่เกิดกลิ่นอับชื้น ไม่ทำให้รู้สึกปวดหลัง ผ้าที่ใช้หุ้มมีคุณสมบัติช่วยป้องกันไรฝุ่น พร้อมสัมผัสที่ให้ความนุ่มสบาย และที่นอนยังมีความหนาถึง 8 นิ้ว ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้อย่าง่ายดาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่นอนรุ่นนี้เน้นให้ความนุ่มสบาย จึงอาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่ชอบนอนที่นอนแบบนุ่มจนเกินไปค่ะ

สำหรับที่นอนสปริงรุ่นนี้ มีส่วนประกอบของวัสดุเป็น Firma Luxe Coil ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะจากอังกฤษ ที่ช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี มีความยืดหยุ่น และความหนาแน่นที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ทั้งยังมี Body Care Topper ที่เป็นเนื้อโฟม สามารถระบายอากาศและถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังมีเทคโนโลยีป้องกันสารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ และสารป้องกันไรฝุ่น จึงถือเป็นที่นอนที่เหมาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือคนที่ต้องระวังเกี่ยวกับไรฝุ่นเป็นพิเศษค่ะ

ที่นอนจาก IKEA รุ่นนี้มีการผสมผสานกับเมมโมรี่โฟมที่มีความหนานุ่ม เพื่อช่วยรองรับสรีระร่างกายของคุณได้เป็นอย่างดี คุณจึงสามารถพลิกตัวได้ตัวง่าย ทำให้หลับสบายและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังไม่รบกวนคนที่นอนข้าง ๆ ด้วย เพราะที่นอนจะยุบตัวเฉพาะจุดที่คุณเคลื่อนไหวค่ะ ตัวที่นอนมีผ้าหุ้มชั้นนอกเป็นผ้ายืด จึงช่วยมอบสัมผัสสบายให้แก่การนอน อย่างไรก็ตาม ที่นอนรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานเพียงด้านเดียว จึงไม่สามารถกลับด้านที่นอนได้นะคะ

ที่นอนรุ่นนี้ได้มีการนำสปริง Super Bonnell Coil กับเนื้อโฟม Organique มาผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้ได้ความแน่นจากสปริง และความสบายจากเนื้อโฟมรูปรวงผึ้ง ที่จะช่วยโอบรับสรีระของคุณได้เป็นอย่างดี มีผ้าหุ้มคอตตอนที่ได้รับการเคลือบสารป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ จากธรรมชาติ ที่สำคัญคือ ที่นอนรุ่นนี้เป็นงาน Handmade ทำให้การตัดเย็บแลดูประณีตและพิถีพิถัน ทั้งยังมีกระบวนการผลิตที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ เพื่อให้คุณสามารถมั่นใจได้ถึงความสะอาดของที่นอนเลยล่ะค่ะ

ที่นอนรุ่นนี้มีส่วนประกอบของ Posture Spring ซึ่งเป็นสปริงเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ และด้วยจำนวนสปริงกว่า 1,200 ตัวที่กระจายอยู่ภายในที่นอน ทำให้ที่นอนรุ่นนี้กระจายน้ำหนักได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ ยังมี Dura Foam สองชั้น ที่ช่วยรองรับแรงกดทับจากน้ำหนักของร่างกาย ที่นอนมีความหนาประมาณ 11 นิ้ว ซึ่งเป็นความหนาที่พอดี ไม่บางหรือหนาจนเกินไป รวมถึงมีผ้าหุ้มด้านบนที่ให้สัมผัสนุ่มน่านอน อีกทั้งยังสามารถป้องกันไรฝุ่น และการเกิดเชื้อราได้อีกด้วยค่ะ

ใครที่มีอาการปวดเมื่อยร่างกายจากที่นอนที่ไม่ได้คุณภาพ ลองมาดูที่นอนรุ่นนี้สิคะ เพราะเป็นที่นอนที่ถูกออกแบบมาเพื่อ Support หลังของคุณ และลดแรงกดทับบริเวณอื่น ๆ เช่น สะโพกและไหล่ได้ดี ด้านในมีส่วนประกอบของชั้น Cool Gel Memory Foam ที่ใช้ควบคุมอุณหภูมิบนที่นอนให้พอดีกับอุณหภูมิของร่างกาย พร้อมสัมผัสนุ่มสบาย สามารถปรับรูปให้เข้ากับสรีระร่างกายของผู้ใช้งานได้ นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นที่นอนแบบ Pocketed Spring จึงสามารถเปลี่ยนท่านอนได้โดยไม่รบกวนคนที่นอนข้าง ๆ ด้วยค่ะ

หากคุณกำลังมองหาที่นอนจากยางพาราเพื่อสุขภาพ ในราคาที่จับต้องได้ เราขอแนะนำที่นอนจาก Lunio รุ่น Gen 2 ซึ่งเป็นที่นอนยางพาราผสมเมมโมรี่โฟม ด้านในประกอบด้วยวัสดุทั้งหมด 5 ชั้น ถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับสรีระร่างกาย กระจายน้ำหนัก ลดแรงกดทับ ระบายอากาศ ช่วยถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ ยังมีชั้นที่ช่วยระบายความร้อน เพิ่มความเย็น ช่วยให้คุณหลับสบายทั้งคืน แต่อาจจะมีกลิ่นที่เกิดจากยางพาราเล็กน้อยในการใช้งานช่วงแรก ๆ ค่ะ

เชื่อว่าหลังจากที่อ่านบทความนี้จบไป หลายคนที่กำลังมองหาที่นอน 5 ฟุต หรือมีปัญหาปวดเมื่อยเนื้อตัวจากที่นอนที่ใช้งานอยู่ คงจะสามารถเลือกที่นอนใหม่ได้เหมาะสมกับห้องนอน และตอบโจทย์การใช้งานของตัวเองมากขึ้นนะคะ


นอกจากนี้ สำหรับคนที่ซื้อที่นอนมาแล้วพบว่าที่นอนนั้นแข็งเกินไป ขอแนะนำ Topper ที่จะเป็นตัวเพิ่มความนุ่มให้กับที่นอนของคุณ ไม่เพียงเท่านั้น การใช้ Topper วางด้านบนของที่นอนก่อนปูผ้าปูที่นอนจะช่วยให้เรารักษาความสะอาดของที่นอนได้ง่ายขึ้น และ Topper บางประเภทยังทำหน้าที่กระจายน้ำหนักและเพิ่มความสบายขณะนอนหลับให้กับคุณด้วย หรือคุณอาจจะหาซื้อที่นอนที่ด้านบนของที่นอนสามารถหุ้มผ้าได้ แบบนี้จะเพิ่มความสะดวกสบาย และยังเป็นการยืดอายุการใช้งานของเตียงเราไปได้อีกนานด้วยค่ะ